เมนู

มรรคจิตดวงที่ 4



[273] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน ?
โยคาวจรบุคคลเจริญฌานเป็นโลกุตระ อันเป็นเครื่องออกไปจากโลก
นำไปสู่นิพพาน เพื่อบรรลุภูมิที่ 4 เพื่อบรรลุราคะ อรูปราคะ มานะ
อุทธัจจะ และอวิชชา ไม่ให้มีเหลือ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
ทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน เป็นทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ใน
สมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อัญญินทรีย์ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
[274] อัญญินทีรย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน ?
ปัญญา กิริยาที่รู้ชัด ความวิจัย ความเลือกสรร ความวิจัยธรรม
ความกำหนดหมาย ความเข้าไปกำหนด ความเข้าไปกำหนดเฉพาะ ภาวะที่รู้
ภาวะที่ฉลาด ภาวะที่รู้ละเอียด ความรู้แจ่มแจ้ง ความค้นคิด ความใคร่ครวญ
ปัญญาเหมือนแผ่นดิน ปัญญาเครื่องทำลายกิเลส ปัญญาเครื่องนำทาง ความ
เห็นแจ้ง ความรู้ชัด ปัญญาเหมือนปฏัก ปัญญา ปัญญินทรีย์ ปัญญาพละ
ปัญญาเหมือนศัสตรา ปัญญาเหมือนปราสาท ความสว่างคือปัญญา แสงสว่าง
คือปัญญา ปัญญาเหมือนประทีป ปัญญาเหมือนดวงแก้ว ความไม่หลง ความ
วิจัยธรรม สัมมาทิฏฐิ ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ อันเป็นองค์แห่งมรรคนับเนื่อง
ในมรรค เพื่อรู้ธรรมที่รู้แล้ว เพื่อเห็นธรรมที่เห็นแล้ว เพื่อบรรลุธรรมที่บรรลุ
แล้ว เพื่อทราบธรรมที่ทราบแล้ว เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ทำให้แจ้งแล้ว ใน
สมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า อัญญินทรีย์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ นี้ชื่อว่า อวิกเขปะ
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น.
สภาวธรรมเหล่านั้นชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
มรรคจิตดวงที่ 4 จบ
โลกุตตรกุศลจิต จบ

อรรถกถาจิตตุปปาทกัณฑ์



อธิบายมรรคจิตดวงที่ 2



บัดนี้ เพื่อทรงแสดงมรรคที่สองเป็นต้น จึงเริ่มตรัสคำว่า กตเม
ธมฺมา กุสลา
ดังนี้อีก.
บรรดาคำเหล่านั้น คำเหล่านี้ว่า กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย
(เพื่อบรรเทากามราคะและพยาบาท) ได้แก่ เพื่อบรรเทาสังกิเลสทั้งหลายใน
คำว่าเพื่อบรรเทาสังกิเลสเหล่านั้น พึงทราบการทำให้เบาบางด้วยเหตุ 2 อย่าง
คือ การเกิดขึ้นบางคราวและการกลุ้มรุมอย่างอ่อน.
จริงอยู่ กิเลสทั้งหลายย่อมไม่เกิดขึ้นเนืองๆ แก่พระสกทาคามี เหมือน
มหาชนผู้ท่องเที่ยวไปในวัฏฏะ ย่อมเกิดขึ้นบางครั้งบางคราว แม้เมื่อเกิดขึ้นก็
เป็นการเกิดขึ้นที่เบาบาง เหมือนหน่อพืชในนาที่เขาหว่านไว้ห่าง ๆ แม้เมื่อ
เกิดขึ้นก็แผ่ไปปกปิดเบาบาง ไม่เกิดขึ้นทำการมืดมนเหมือนมหาชนผู้ท่องเที่ยว
ไปในวัฏฏะ ก็เพราะถูกมรรคทั้งสองประหาณแล้วจึงเกิดขึ้นเบาบาง ย่อมเกิดขึ้น
เป็นสภาพเบาบางเหมือนแผ่นหมอกบาง ๆ และเหมือนปีกแมลงวัน ฉะนั้น.
ในข้อนี้ พระเถระบางพวกกล่าวว่า กิเลสเกิดขึ้นแก่พระสกทาคามี
นาน ๆ ครั้งแม้ก็จริง ถึงอย่างนั้นก็เป็นกิเลสหนาเทียวเกิดขึ้น เพราะว่า พระ-
สกทาคามีนั้นยังมีบุตรและธิดาปรากฏอยู่ ดังนี้. แต่ข้อนี้ไม่เป็นประมาณ เพราะ
ว่าบุตรและธิดาย่อมมีด้วยเหตุสักว่าการลูบคลำอวัยวะน้อยใหญ่ก็มี แต่ความที่
กิเลสยังหนาไม่มีเพราะความทที่กิเลสทั้งหลายท่านละด้วยมรรคทั้งสองแล้ว. พึง
ทราบความเบาบางแห่งกิเลสทั้งหลายของท่านด้วยเหตุทั้ง 2 คือ ด้วยการเกิดขึ้น
บางคราวและเพราะกลุ้มรุมอย่างอ่อน ด้วยการฉะนี้.